นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) บริษัท ซาลัส ไบโอซูติคอล (ประเทศไทย) จำกัด
1. บทนำ

บริษัท ซาลัส ไบโอซูติคอล (ประเทศไทย) จำกัด มีธุรกิจหลักที่เกี่ยวกับการเพาะปลูก การสกัด การผลิต การทดสอบทางห้องปฏิบัติการ และการทำการตลาดผลิตภัณฑ์กัญชาและกัญชง โดยมุ่งเน้นผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสามารถนำไปเป็นส่วนผสมในผลิ ตภัณฑ์อาหาร (Food Grade) ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและผลิตภัณฑ์ยา (Pharmaceutical Grade)

บริษัท ซาลัส ไบโอซูติคอล (ประเทศไทย) จำกัดและบริษัทในเครือ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือ ในนามของบริษัท ซาลัส ไบโอซูติคอล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกรวมว่า “บริษัท”
ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับท่า น (รวมเรียกว่า “ข้อมูล”) เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่า บริษัท มีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุ คคล พ.ศ. 2562 (“ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“ นโยบาย”) นี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงแก่ท่านถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบ รวม ใช้หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “ ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการโดย บริษัทรวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของ บริษัท โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้

2. ขอบเขตการบังคับใช้นโยบาย

นโยบายนี้ใช้บังคับกับ ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลซึ่งมีความสัมพันธ์กับ บริษัท ในปัจจุบันและที่อาจมีในอนาคต ซึ่งถูกประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท เจ้าหน้าที่ พนักงานตามสัญญา หน่วยธุรกิจหรือหน่วยงานรูปแบบอื่นที่ดำเนินการโดย บริษัท และรวมถึงคู่สัญญาหรือบุคคลภายนอกที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแท นหรือในนามของ บริษัท (“ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล”) ภายใต้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ระบบ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือบริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดย บริษัท (รวมเรียกว่า “ บริการ”)

บุคคลมีความสัมพันธ์กับ บริษัท ตามความในวรรคแรก รวมถึง

  • ลูกค้าบุคคลธรรมดา
  • เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงาน ลูกจ้าง
  • คู่ค้าและผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
  • กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบเดียวกันของนิติบุคคล ที่มีความสัมพันธ์กับ บริษัท
  • ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท
  • ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซต์ www.salusbioceutical.co.th รวมทั้งระบบ แอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นซึ่งควบคุมดูแลโดย บริษัท

    บุคคลอื่นที่ บริษัท เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้สมัครงาน ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ผู้ค้ำประกัน ผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันภัย เป็นต้น ข้อ 1) ถึง 6) เรียกรวมกันว่า “ ท่าน

    นอกจากนโยบายฉบับนี้แล้ว บริษัท อาจกำหนดให้มี คำประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (“ ประกาศ”)

    สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท เพื่อชี้แจงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้ใช้บริการได้ทราบถึงข้อมู ลส่วนบุคคลที่ถูกประมวลผล วัตถุประสงค์และเหตุผลอันชอบด้วยกฎหมายในการประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลพึงมีในผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นเป็นการเฉพาะเจาะจง ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความขัดแย้งกันในสาระสำคัญระหว่างความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและนโยบายนี้ ให้ถือตามความในประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของบริการนั้น

3. คำนิยาม
  • ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดา ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
  • ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนอ งเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกา ศกำหนด
  • การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เก็บรวบรวม บันทึก สำเนา จัดระเบียบ เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ใช้ กู้คืน เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน รวม ลบ ทำลาย เป็นต้น
  • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
  • ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรว บรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุ มข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมู ลส่วนบุคคล
4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวม

บริษัท เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริ การต่าง ๆ เช่น ขั้นตอนการสมัคร ลงทะเบียน สมัครงาน การทำสัญญา บันทึกข้อตกลง บันทึกความร่วมมือ รายชื่อลูกค้า ตัวแทนจำหน่าย เอกสาร ทำแบบสำรวจหรือใช้งานผลิตภัณฑ์ บริการ หรือช่องทางให้บริการอื่นที่ควบคุมดูแลโดย บริษัท หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับ บริษัท ณ ที่ทำการหรือผ่านช่องทางติดต่ออื่นที่ควบคุมดูแลโดย บริษัท เป็นต้น
  • ข้อมูลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญาหรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่ วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่ บริษัท เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อปร ะโยชน์สาธารณะแบบเบ็ดเสร็จแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง การรับข้อมูลส่วนบุคคลจากหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นในฐานะที่ บริษัท มีหน้าที่ตามพันธกิจในการดำเนินการจัดให้มีศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกลา งเพื่อสนับสนุนการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการปร ะชาชนผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงจากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยน ข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้

    นอกจากนี้ ยังหมายความรวมถึงกรณีที่ท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุค คลภายนอกแก่ บริษัท ดังนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งรายละเอียดตามนโยบายนี้หรือประกา ศของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ตามแต่กรณี ให้บุคคลดังกล่าวทราบ ตลอดจนขอความยินยอมจากบุคคลนั้นหากเป็นกรณีที่ต้องได้รับความยิ นยอมในการเปิดเผยข้อมูลแก่ บริษัท

    ทั้งนี้ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นใ นการให้บริการของ บริษัทอาจเป็นผลให้ บริษัท ไม่สามารถให้บริการนั้นแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือ บางส่วน

5. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นเรื่องที่กระทำโดยสมัครใจ ท่านอาจเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลที่บริษัทร้องขอ แต่การไม่ให้ข้อมูลดังกล่าว อาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถจัดสวัสดิการบางอย่างให้แก่ท่าน หรือบริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อท่านได้ หรือท่านอาจไม่ได้รับการบริการตามที่ท่านต้องการ

ข้อมูลบางอย่างที่บริษัทเก็บรวบรวมอาจถือเป็น “ข้อมูลที่มีความอ่อนไหว

บริษัทมุ่งหมายที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีความอ่อนไหวจากท่าน เฉพาะในกรณีที่ท่านให้ความยินยอมไว้โดยชัดแจ้งและเท่าที่จำเป็นต้อง ใช้ตามสมควรในการดำเนินกิจการของบริษัท หรือในกรณีที่กฎหมาย หรือศาล หรือหน่วยงานของรัฐมีคำสั่งให้เก็บรวบรวมข้อมูลนั้น หรือในกรณีที่ท่านได้จงใจเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อสาธารณชนแล้วเท่านั้น และมุ่งหมายที่จะแบ่งปันข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเฉพาะในกรณีที่บริษัทเห็นว่าจำเป็นต้องมีการเก็ บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเท่านั้น

โดย บริษัท จะดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจ ากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้

  • เพื่อปฏิบัติตามสัญญา กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการหรือป ฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและบริษัท
  • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่สามารถให้ควา มยินยอมได้ ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
  • เพื่อความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประส งค์เกี่ยวกับ
    • เวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ การประเมินความสามารถในการทำงานของลูกจ้าง การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์การจัดการด้านสุขภาพ หรือระบบและการให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์ ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่ใช่การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อมูลส่วนบุคคลนั้น อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ประกอบอาชีพหรือวิชาชีพหรือผู้มี หน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้เป็นความลับตามกฎหมายต้องเป็นการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กับผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์
    • ประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่อ อันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณ าจักร หรือการควบคุมมาตรฐานหรือคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ หรือเครื่องมือแพทย์ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมและเจาะจงเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยเฉพาะการรักษาค วามลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามหน้าที่หรือตามจริยธรรมแห่งวิ ชาชีพ
    • การคุ้มครองแรงงาน การประกันสังคม หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของผู้มีสิทธิตามกฎหมาย การคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ หรือการคุ้มครองทางสังคม ซึ่งการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจ าเป็นในการปฏิบัติตามสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ควบคุมข้อมูลส่วน บุคคลหรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยได้จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    • การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ หรือประโยชน์สาธารณะอื่น
    • ประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
  • เพื่อผลประโยชน์อันชอบโดยกฎหมายของบริษัท กรณีมีความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรมในการดำเนินงานของ บริษัท โดยบริษัทจะพิจารณาถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลเป็นสำคัญ เช่น เพื่อป้องกันการฉ้อโกง การรักษาความปลอดภัยในระบบเครือข่าย การปกป้องสิทธิเสรีภาพ และประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลเป็นต้น
  • เพื่อการศึกษาวิจัยหรือสถิติ กรณีที่มีการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโย ชน์สาธารณะหรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล
  • เพื่อปฏิบัติภารกิจของรัฐ กรณีมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติตามภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจรัฐที่บริษัทได้รับมอบหมาย

ในกรณีที่ บริษัท มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการปฏิบั ติตามสัญญาการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือเพื่อความจำเป็นในการเข้าทำสัญญา หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือ คัดค้านการดำเนินการประมวลผลตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรม อาจมีผลทำให้ บริษัท ไม่สามารถดำเนินการหรือให้บริการตามที่ท่านร้องขอได้ทั้งหมดหรือบา งส่วน

6. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ บริษัท เก็บรวบรวม

ในการเก็บรวบรวม และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นตา มวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัท อันประกอบด้วย

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดและตัวอย่าง
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล ข้อมูลระบุชื่อเรียกของท่านหรือข้อมูลจากที่ ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของท่าน เช่น ชื่อ - นามสกุล, วันเดือนปีเกิด, อายุ, สัญชาติ, เลขประจำตัวประชาชน, ลายมือชื่อ , ตำแหน่ง เป็นต้น
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ ข้อมูลสำหรับการติดต่อท่าน เช่น ที่อยู่,หมายเลขโทรศัพท์, อีเมล, ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ เป็นต้น
ข้อมูลเอกสารทางราชการ ข้อมูลเอกสารราชการของท่าน เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน,สำเนาหนังสือเดินทาง เป็นต้น
ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลทางการเงินของท่าน เช่น สำเนาหน้าบัญชีธนาคาร, เลขบัตรเครดิต เป็นต้น
ข้อมูลที่ได้จากเก็บรวบรวมของบริษัทหรือระบบอัตโนมัติจากอุปกรณ์ต่าง ๆของบริษัท ข้อมูลที่ได้จากเก็บรวบรวมของบริษัท หรือระบบอัตโนมัติจากอุปกรณ์ต่าง ๆ ของบริษัท เช่น หมายเลข IP Address, Cookie, พฤติกรรมการใช้บริการ, ประวัติการสั่งซื้อ, ภาพถ่าย เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่ าน เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลศาสนา ข้อมูลความพิการ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ (ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น
7. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร

โดยทั่วไป บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง เช่น ใบสมัครงาน (Application Form) หรือเอกสารใด ๆ เพื่อเป็นบุคลากรหรือกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท เอกสารหรือระบบการลงทะเบียนเป็นผู้ให้บริการหรือผู้ขายสินค้าให้แก่ บริษัท ช่องทางการกรอกข้อมูลผ่านระบบของบริษัท หรือเว็บไซต์ของบริษัท รวมถึงการแจ้งต่อบริษัทไม่ว่าด้วยใด ๆ ทางวาจา เช่น ทางโทรศัพท์หรือ video / virtual conference ช่องทางการรับส่งข้อมูลผ่านทางอีเมล์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทกับท่าน

รวมถึงได้รับข้อมูลผ่านแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่บริ ษัทหรือบริษัทใด ๆ ที่เกี่ยวข้องจัดทำหรือจัดให้มีขึ้นบริษัทไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท ยกเว้นในกรณีที่มีการให้ข้อมูลเอง หรือข้อมูลทางเทคนิค ตามที่กล่าวไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

ในบางครั้งอาจมีบุคคลอื่นให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท โดยท่านอาจมีความเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวโดยตรงหรือไม่ก็ได้ เช่น บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก

  • นายจ้างของท่าน หากบุคคลดังกล่าวให้ข้อมูลติดต่อของท่าน
  • พนักงานในกลุ่มบริษัท โดยผ่านการแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ หรือทางอีเมล หรือช่องทางสื่อสารอื่น ๆ
  • ผู้รับจ้าง ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการ
  • ธนาคาร และผู้ให้บริการชำระเงิน เช่น บริษัทบัตรเครดิต หรือเดบิต
  • กรมสรรพากร กรมคุ้มครองแรงงาน หน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานศุลกากร
  • หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นๆ ตามที่กฎหมายอนุญาต หรือกำหนดไว้
  • ผู้แทนของท่าน
  • แหล่งข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ รายการข้อมูลติดต่อสำหรับการส่งจดหมาย และการทำการตลาดที่เปิดเผยต่อสาธารณะ และจัดทำขึ้นเพื่อการค้าทั้งของภาคเอกชน สมาคมการค้าใด ๆ และ/หรือหน่วยงานของรัฐ (เช่น เว็บไซต์ต่าง ๆ) รวมถึง Social Media อื่น ๆ เช่น Facebook LinkedIn เป็นต้น
8. คุกกี้

บริษัทอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียว กันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของ บริษัท เช่น www.salusbioceutical.co.th หรือบนอุปกรณ์ของท่านตามแต่บริการที่ท่านใช้งาน ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของ บริษัท และเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีใ นการใช้งานบริการของ บริษัท และข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของ บริษัท ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้ง ค่าในเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของท่าน

9. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ หลายประการ. ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์หรือบริการหรือกิจกรรมที่ท่านมีควา มสัมพันธ์กับบริษัท ทั้งในแง่ของการเข้าทำสัญญา หรือเจรจา ติดต่อทางธุรกิจ ตลอดจนลักษณะความสัมพันธ์ของท่านกับ บริษัท หรือข้อพิจารณาในแต่ละบริบทเป็นสำคัญ โดยวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้เป็นเพียงกรอบการใช้ข้อมูลส่วนบุค คลของ บริษัทเป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เฉพาะวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ท่านใช้งานหรื อมีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้นที่จะมีผลบังคับใช้กับข้อมูลของท่าน

  • เพื่อเข้าทำสัญญา หรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างบริษัทกับเจ้าของข้อมูล หรือปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลภายนอกเพื่อประโย ชน์ของเจ้าของข้อมูล
  • เพื่อตอบคำถามและให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าของข้อมูล
  • เพื่อพัฒนาและปรับปรุงสินค้า ผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัทให้ตอบสนองต่อความต้องการของเจ้าของข้ อมูลมากยิ่งขึ้น
  • เพื่อให้ข้อมูลและแนะนำสินค้า ผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือประชาสัมพันธ์ทางการตลาดรายการส่งเสริมการขาย หรือสิทธิประโยชน์ผ่านช่องทางการติดต่อที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูล ตามที่เจ้าของข้อมูลได้ให้คำยินยอม ตามที่ท่านได้ยินยอมกับทางบริษัท
  • เพื่อสำรวจความคิดเห็น วิเคราะห์ การทำวิจัย และจัดทำข้อมูลทางสถิติ เพื่อใช้ทางการตลาด หรือการพัฒนาและปรับปรุงการดำเนินกิจการของบริษัท ตามที่ท่านได้ยินยอมกับทางบริษัท
  • เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการงานหรือดำเนินงานภายในของบริษั ทที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
  • เพื่อตรวจสอบ กำกับดูแล และรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท
  • เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท เช่น การหักภาษี ณ ที่จ่าย
  • เพื่อให้ข้อมูลแก่หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายตามที่ห น่วยงานภาครัฐร้องขอ เช่นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร ศาล
  • เพื่อดำเนินกิจกรรมใด ๆ ทางบัญชีและการเงิน เช่น การตรวจสอบบัญชี การแจ้งและเรียกเก็บหนี้ การใช้สิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ภาษี และหลักฐานการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนด
  • เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น การบันทึกเสียงสนทนาผ่านระบบ Call Center, การบันทึกภาพผ่านกล้อง CCTV
  • เพื่อใช้ในการสอบสวนและปฏิบัติตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ หรือหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท
  • ใช้ข้อมูลในการยืนยันตัวตนลูกค้า
  • วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ได้รับคำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน
10. การส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะไม่เปิดเผยและส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานภ ายนอก เว้นแต่ได้รับ คำยินยอมชัดแจ้งจากท่าน หรือเป็นไปตามกรณีดังต่อไปนี้

  • เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับ นี้บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลเฉพาะเท่าที่จำเป็น แก่คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือหน่วยงานภายนอก โดย บริษัทจะจัดทำข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎห มายกำหนด
  • บริษัทอาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทในเครือ โดยจะเป็นการประมวลผลข้อมูลภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุในนโย บายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เท่านั้น
  • กฎหมายหรือกระบวนการทางกฎหมายบังคับให้เปิดเผยข้อมูล หรือเปิดเผยต่อเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่มีอำนาจเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำขอที่ชอบด้วย กฎหมาย
11. การถ่ายโอนหรือส่งต่อข้อมูลไปยังต่างประเทศ

บริษัทอาจจะส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ โดยจะทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทางหรือหน่วยงานปลายทางมีมา ตรฐานและนโยบายในการคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอ

12. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่ข้อมูล นั้นยังมีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเท่านั้น ตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ในนโยบาย ประกาศหรือตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาและข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสิ้นความจำเป็นตามวัตถุ ประสงค์ดังกล่าวแล้ว บริษัท จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่สามารถระบุตัวตนได้ต่อไป ตามรูปแบบและมาตรฐานการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี ในกรณีที่มีข้อพิพาท การใช้สิทธิหรือคดีความอันเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะ ได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุด

13. การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะใช้มาตรการทางเทคนิค และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัย ของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีการเข้ารหัสสำหรับการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและคว บคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะผู้เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของข้อมูลที่จัดเก็บในรูปแบบเอกสารและอิเล็กทรอนิกส์

14. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก

บริการของ บริษัท อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศนโยบายการคุ้มครองข้ อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายนี้ บริษัท ขอแนะนำให้ท่านศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไ ซต์หรือบริการนั้น ๆ เพื่อทราบในรายละเอียดก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ บริษัท ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่ว นบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวและไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้ อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม

15. สิทธิของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และตามที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ได้ดังต่อไปนี้

  • สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่กฎหมายจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ การถอนความยินยอมดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมโดยชอบด้วยกฎห มายทก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
  • สิทธิในการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งอยู่ในความครอบครอง หรือการควบคุมของบริษัท หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
  • สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลท่านมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สาม ารถอ่าน หรือใช้งานได้ทั่วไปด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานโดยอัตโนมัติไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ โดยขึ้นอยู่กับข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
  • สิทธิในการคัดค้านท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัท ระงับการใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ทั้งนี้ บริษัท จะดำเนินการตามคำขอตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านชั่วคราวสิทธิในการจำกัดการประมวลผลข้อมูล ท่านมีสิทธิในการร้องขอ ให้บริษัทจำกัดการประมวลผลข้อมูล โดยผู้ควบคุมข้อมูลสามารถเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปได้ แต่ไม่สามารถนำไปประมวลผล ข้อมูลได้อีกต่อไป เว้นแต่พนักงานจะให้ความยินยอมหรือได้รับการยกเว้นตามที่ก ฎหมายกำหนด
  • สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลท่านมีสิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยบริษัท จะดำเนินการตามคำขอของท่าน ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
  • สิทธิในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องท่านมีสิทธิขอให้บริษัท ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงาน บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเท่าที่เป็นไปได้เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่ว นบุคคลของผู้ใช้บริการมีความถูกต้อง สมบูรณ์ และเป็นปัจจุบัน
  • สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่ท่านพบว่าบริษัท หรือบุคลากรของบริษัทใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านไม่เป็นไปตามที่ท่านได้ให้ความยินย อมไว้ หรือไม่เป็นการประมวลผล ตามที่มีสิทธิตามกฎหมาย ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไ ด้
16. โทษของการไม่ปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การไม่ปฏิบัติตามนโยบายอาจมีผลเป็นความผิดและถูกลงโทษทางวินัย ตามกฎเกณฑ์ของ บริษัท (สำหรับเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานของ บริษัท) หรือตามข้อตกลงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (สำหรับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ทั้งนี้ ตามแต่กรณีและความสัมพันธ์ที่ท่านมีต่อ บริษัท และอาจได้รับโทษตามที่กำหนดโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคล พ.ศ. 2562 รวมทั้งกฎหมายลำดับรอง กฎ ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง

17. การปรับปรุงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท อาจพิจารณาปรับปรุง แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ตามที่เห็นสมควร และจะทำการแจ้งให้ท่านทราบผ่านเว็บไซต์ของบริษัท หรือการประกาศภายในบริษัท ไม่ว่าจะเป็นการปิดประกาศ หรือการเผยแพร่ทางออนไลน์ โดยมีวันที่มีผลบังคับใช้ของแต่ละฉบับแก้ไขกำกับอยู่ อย่างไรก็ดี บริษัท ขอแนะนำให้ท่านโปรดตรวจสอบเพื่อรับทราบนโยบายฉบับใหม่อย่างส ม่ำเสมอ ผ่านช่องทางเฉพาะกิจกรรมที่ บริษัท ดำเนินการ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะทำการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่ บริษัท

การเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของ บริษัท รวมถึงการติดต่อเจรจาทางธุรกิจ หรือการเข้าทำสัญญาบันทึกข้อตกลงใดๆ ก็ตาม ที่เกิดขึ้นภายหลังการบังคับใช้นโยบายใหม่ ถือเป็นการรับทราบตามข้อตกลงในนโยบายใหม่แล้ว

18. การติดต่อสอบถามหรือใช้สิทธิ

หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะหรือข้อกังวลเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท หรือเกี่ยวกับนโยบายนี้ หรือท่านต้องการใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่

  • ชื่อ: บริษัท ซาลัส ไบโอซูติคอล (ประเทศไทย) จำกัด
  • สถานที่ติดต่อ:
    สำนักงานใหญ่ เลขที่ 87 อาคารเอ็ม.ไทย ทาวเวอร์ (ออลซีซั่นส์คอมเพล็กซ์) ชั้นที่ 22 ยูนิต 1 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร สำนักงานสาขา เลขที่ 320 หมู่ที่ 2 ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
  • โทรศัพท์ : (+66)(52)-135073, (52)-135073

โดยแจ้งข้อมูลดังต่อไปนี้ประกอบการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคค ล

  • ชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน/เลขที่หนังสือเดินทาง
  • ข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล หรือสิทธิที่ต้องการใช้ตามกฎหมาย
  • หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ และอีเมลที่สามารถติดต่อกลับได้
ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565
ประธานกรรมการบริหารและกรรมการบริษัท